โรงเรียนวัดบางใบไม้

หมู่ที่ 3 บ้านบางใบไม้ ตำบลบางใบไม้ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

077-292890

ผลไม้ ควรกินก่อนหรือหลังอาหารเพื่อประโยชน์

ผลไม้ ควรกินก่อนหรือหลังอาหาร โดยนักโภชนาการชี้ให้เห็นว่าตามคำแนะนำ ของกระทรวงสาธารณสุข และสวัสดิการคนส่วนใหญ่ สามารถเลือกกินผลไม้หลังอาหารได้ เมื่อไม่มีความต้องการหรือโรคอื่นๆ วัตถุประสงค์หลักคือการดูดซับวิตามินบี และวิตามินซีในผลไม้ สามารถช่วยในการดูดซึม และเผาผลาญสารอาหาร และวิตามินซี ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และธาตุเหล็กในมื้ออาหารฝรั่ง ส้ม และกีวีล้วนเป็นทางเลือกที่ดี

ผลไม้

หากอาหารเป็นปลา และเนื้อสัตว์ขนาดใหญ่ ขอแนะนำให้บริโภคผลไม้ ที่อุดมไปด้วยเอนไซม์ เช่นมะละกอ สับปะรด และกีวี เพื่อช่วยปรับปรุงการย่อยอาหาร และส่งเสริมการสลายตัว และการดูดซึมอาหาร กลุ่มชาติพันธุ์ใด ที่เหมาะกับการรับประทานก่อนอาหาร หากคุณมีปัญหาน้ำตาลในเลือด เช่นเบาหวาน และจำเป็นต้องควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือด

แนะนำให้กินผลไม้ ระหว่างมื้ออาหาร ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก และควบคุมน้ำหนัก สามารถรับประทานก่อน หรือระหว่างมื้อก็ได้ ทั้งสองกลุ่มเชื้อชาติ ชอบผลไม้ที่มีเส้นใยสูง และมีค่า GI ต่ำ เช่นฝรั่ง มะเขือเทศราชินี แอปเปิ้ลเป็นต้น นักโภชนาการ อธิบายว่าสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด ทั้งแป้งและผลไม้ในอาหาร มีคาร์โบไฮเดรต ควรรับประทานผลไม้ระหว่างมื้อ เพื่อช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ การเลือกผลไม้ที่มีค่าจีไอต่ำ ไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น

ผลไม้ที่มีเส้นใยสูงมีคุณสมบัติ ในการเพิ่มความอิ่ม สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก การกินก่อน มีประโยชน์โดยธรรมชาติ การใช้ผลไม้ที่มีเส้นใยสูง เป็นน้ำชายามบ่าย และของว่างระหว่างมื้อ ยังช่วยเลี่ยงการรับประทานอาหาร ที่ไม่จำเป็นอื่นๆอีกด้วย อย่างไรก็ตาม นักโภชนาการยังเตือนว่า ถึงแม้คุณสามารถกินผลไม้ก่อนอาหาร รวมทั้งอาหารเช้า คุณควรหลีกเลี่ยงการกิน แต่ผลไม้เท่านั้น

หลังออกกำลังกายกินผลไม้อะไรได้บ้าง หลายคนยังกินผลไม้ เพื่อเสริมพลังงานหลังออกกำลังกาย นักโภชนาการยังแนะนำ ให้กินผลไม้ที่มีค่าจีไอสูง ผลไม้รสหวานอื่นๆ เช่นองุ่น แตงโม และมะม่วงอีกด้วย เนื่องจากร่างกายมนุษย์บริโภคไกลโคเจน ระหว่างออกกำลังกาย ผลไม้ที่มีค่าจีไอสูง จึงสามารถเติมน้ำตาล ซึ่งสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว และแปลงเป็นพลังงาน แนะนำให้บริโภคภายใน 30 ถึง 60 นาที

ในการรับประทานผลไม้เพื่อสุขภาพ นอกจากการเลือกเวลา และประเภท วิธีการรับประทาน ปริมาณ และข้อห้ามก็มีความสำคัญมากเช่นกัน นักโภชนาการชี้ให้เห็นว่า ควรกินผลไม้ตามฤดูกาล และแนะนำให้บริโภค หลายสีแทนสีเดียว เพื่อความสะดวก ในการบริโภคสารอาหารต่างๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกินฝรั่งในตอนเช้า คุณสามารถเปลี่ยนเป็นมะเขือเทศในตอนเย็นได้

ไม่ว่าผลไม้จะมีสุขภาพดีแค่ไหน ก็ต้องควบคุมขนาดเสิร์ฟ และไม่ควรมากเกินไป เมื่อใดก็ตามที่คุณกินผลไม้ แนะนำให้บริโภคผลไม้ต่อวันต่อคนเป็น 2 เสิร์ฟต่อวัน หนึ่งหน่วยบริโภคประมาณ 100 กรัม และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เซ็นติเมตร หลีกเลี่ยงปริมาณที่มากเกินไป หลีกเลี่ยงไตรกลีเซอไรด์สูงเกินไป การอยากกินมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสุขภาพจะขัดกับสุขภาพที่ไม่ดี

เป็นที่น่าสังเกตว่า มีผลไม้หลายชนิดที่ต้องการความใส่ใจ ในขนาดส่วนมากขึ้น เช่นกล้วย ทุเรียนเป็นต้นโดยเอาขนาดของกล้วย ที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ตมาเป็นตัวอย่าง รากครึ่งนึงจะประมาณ 70 กรัม ซึ่งพอๆกับกล้วยเสิร์ฟผลไม้ ทุเรียนมีประมาณ 2 ถึง 3 ชิ้น และประมาณ 45 กรัม นับเป็นหนึ่งเสิร์ฟได้ เตือนให้ประชาชนให้ความสนใจกับขนาดเสิร์ฟ

สำหรับข้อห้ามในผลไม้ นอกเหนือจากเรื่องดังกล่าว ที่ต้องให้ความสนใจ นักโภชนาการยังชี้ให้เห็นว่าส้มโอ มีปฏิสัมพันธ์และสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ เช่นยาเกินกำลัง โดยเฉพาะยาลดความดันโลหิต นอกจากนี้ควรรับประทาน ผลไม้ ที่มีรสเปรี้ยวและหวานเกินไป ในขณะท้องว่าง เช่นมะเขือเทศขนาดเล็ก ส้ม มะนาว ลูกพลับฯลฯ

หากมีอาการจุกเสียดในลำไส้ ควรหลีกเลี่ยงลูกพลับ ผู้ที่มีไตไม่ดี และโรคเกี่ยวกับไต ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะเฟือง เนื่องจากมะเฟืองมีพิษต่อระบบประสาท แม้ว่าคนทั่วไปจะเผาผลาญได้ แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่มีไตไม่ดี อาจทำให้เกิดพิษ ต่อระบบประสาท ซึ่งจะมีอาการสะอึกและอาเจียน

อ่านต่อได้ที่ >>> หมอนรองกระดูก ทับเส้นประสาทส่วนเอวมีอาการอย่างไร